[Review] Leo’s Fortune ปุกปุยล่าสมบัติ ผจญภัยกับดักมรณะ

Leo’s Fortune เป็นเกมแนว Platformer ที่ให้เราบังคับเจ้า Leo สิ่งมีชีวิตตัวกลมๆ ขนปุกปุย  ตะลุยผ่านด่าน เก็บทอง พร้อมกับแก้ปริศนาไปเรื่อยๆ จนถึงทางออก

เนื้อเรื่องของเกมนี้ก็ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน คืออยู่ๆ วันนึง เจ้า Leo ได้พบว่าทองคำที่เป็นดั่งทรัพย์สมบัติของมันได้หายไป ก็เลยออกสืบเสาะตามหาไปทั่วทุกสารทิศเพื่อที่จะหาตัวผู้ขโมย และเอาทองคำของมันกลับคืนมาให้ได้

แต่การเดินทางนั้นก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะในระหว่างทางนั้นมีอุปสรรคขวากหนามอยู่เต็มไปหมด ซึ่งถ้าเกิดไปแตะโดนเข้าทีนึงนี่ก็อาจดับดิ้นได้ง่ายๆ แต่โชคดีหน่อยที่เรายังสามารถกลับมาเริ่มใหม่ได้จากจุด Check point ที่อยู่ไม่ไกลจากจุดที่เราตายมากนัก

ปริศนาในเกม ส่วนใหญ่จะเป็นการเล่นกับระบบฟิสิกส์ เช่นพวกการดันกล่องหรือเอียงคานเพื่อที่จะกระโดดไปยังจุดถัดไป ซึ่งลูกเล่นในจุดนี้ก็ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน แต่ด่านหลังๆ จะมีการเล่นกับแสง ซึ่งในจุดนี้เป็นอะไรที่ดูสร้างสรรค์และเข้าท่าดีไม่น้อย

ระบบควบคุม มีให้เลือก 2 แบบ คือแสดงปุ่ม Control บนหน้าจอ กับไม่แสดง ซึ่งจากที่ผมลองเล่นเกมนี้ในโทรศัพท์มือถือหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ก็พบว่าการเปิดให้แสดงปุ่ม Control บนหน้าจอจะเล่นได้สะดวกกว่า อีกอย่างเกมแนวนี้ถ้าเล่นในแท็บเล็ตอาจจะไม่สะดวกเท่าเล่นในมือถือ

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของเกมนี้อยู่ที่งานองค์ประกอบศิลป์และงานกราฟิก เพราะทั้งตัวละคร ฉาก พื้นหลัง และเอฟเฟกต์แสงสีและบรรยากาศในเกมทำออกมาได้เจ๋งมากๆ ฉากในเกมเป็นภาพ 2 มิติ (เข้าใจว่าเป็นการวาดด้วยมือ) ที่ทำออกมาได้ลื่นไหลและลงตัวเอามากๆ ส่วนเรื่องเสียงประกอบ ก็ดีในระดับมาตรฐาน ไม่ได้รู้สึกหวือหวาอะไร

ตลอดทั้งเกมมีแค่การผจญภัยฝ่าปริศนากับดักต่างๆ ไปจนถึงทางออก ไม่มีการต่อสู้อะไรกับใคร ถึงแม้ภายนอกจะดูว่าเกมนี้ออกแนวน่ารักสดใส แต่ความจริงคือกับดักในเกมนี้โหดมาก หลากหลายมาก และพร้อมที่จะฆ่าเราตายได้ทุกเมื่อ ขนาดที่ว่าตอนผมเล่น Limbo ยังไม่ตายบ่อยเท่ากับที่ตายในเกมนี้เลย (เคยทำสถิติด่านท้ายๆ ตายมากสุด 63 ครั้ง!)

นอกจากกับดักสุดโหดแล้ว ความยากอีกอย่างนึงของเกมนี้คือการเก็บดาวในแต่ละด่านให้ครบ 3 ดาว ซึ่งทำได้โดยการเก็บเหรียญทองให้ครบทุกเหรียญในด่าน ตายน้อยๆ และผ่านด่านให้ได้ภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งจากที่ผมเล่นมา ยังไม่เคยมีด่านไหนที่สามารถเก็บครบทั้ง 3 ดาวได้เลย บางด่านเอาแค่เก็บทองให้ครบยังยากแล้ว

ข้อดีอีกอย่างของเกมนี้คือไม่มีการสะสมแต้มเพื่ออัปเกรดตัวละคร รวมถึงไม่มี In-App Purchase มาหลอกดูดตัง ทำให้ตัวละครมีความสามารถเท่าเดิมตั้งแต่ต้นจนจบเกม นั่นทำให้การที่เราจะผ่านฉากแต่ละฉากได้จำเป็นต้องอาศัยฝีมือของเราอย่างเดียว ไม่มีการจงใจออกแบบฉากมาเพื่อให้ต้องอัพเกรดตัวละครถึงจะผ่านได้

ด่านในเกมมีทั้งหมด 20 ด่าน (แต่เหมือนจะมีด่านลับซ่อนอยู่อีกถ้าเก็บ Achievement ได้ครบ) ใช้เวลาเล่นไม่ถึง 2 ชั่วโมงก็จบแล้ว เมื่อเล่นจบไปแล้วรอบนึงสามารถเล่นในโหมด Hardcore ต่อได้ (แต่ละด่านตายได้รอบเดียว) หรือจะเล่นโหมด Normal ต่อเพื่อเก็บดาวหรือเก็บ Achievement ให้ครบก็ได้

เกมนี้มีให้ซื้อกันทั้งใน iOS และ Android ราคาอยู่ที่ $4.99 (159 บาท) แต่ตอนนี้มีขายอยู่ในแพ็ค Humble Mobile Bundle 9 ซึ่งถ้าใครที่ใช้ Android ถ้าจ่ายเงินมากกว่าค่าเฉลี่ย (ที่ตอนนี้อยู่ที่ 3 เหรียญกว่าๆ) ก็สามารถรับเกมนี้ไปเล่นได้เลย

สำหรับความสนุก งานศิลป์ชั้นเยี่ยม และความคุ้มค่าในการเล่นซ้ำ ผมให้เกมนี้ไปเลยที่ 9.5 คะแนนครับ